คอมเมนต์สนั่นหลัง พลายนิ่ง รูปปั้นช้างเขาใหญ่ ถูกอริเก่า พลายนิ่ง ฟัดร่วงอีกรอบ แอดมินเพจโคราช ตั้งข้อสงสัยยังไม่หายเเค้น ด้านคอมเมนต์ชาวเน็ต ถกสนั่น ปมฟาดงวง ฟาดงา เดือด ก่อนหน้านี้ หากใครยังจำกันได้ ย้อนไปเมื่อปี 2564 มีรายงานข่าว พลายเดี่ยวหลับ ซึ่งเป็นช้างป่าเขาใหญ่ ได้เข้าไปวิ่งชนเข้ากับ พลายนิ่ง รูปปั้นช้างเขาใหญ่ สัญลักษณ์ประจำจุดบริการนักท่องเที่ยวอุทยานเขาใหญ่ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาซ่อมแซมก่อนนำกลับมาตั้งประจำยังจุดเดิมเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
โดยหนที่ผ่านมานั้นทางเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ได้ฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปถ่ายภาพและทักทาย เจ้าพลายนิ่ง ให้เว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย และไม่จับหรือสัมผัสเพื่อให้รูปปั้นช้างพลายนิ่งได้ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวไปอีกนานแสนนาน
อย่างไรก็ตามคำเตือนเมื่อ 2 ปีก่อนของทางเจ้าหน้าที่ดูจะไม่ผลกับ พ่อพลายเดี่ยว ซึ่งเป็นโจทย์เก่า เพราะล่าสุดรายงานจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ Korat Next Step เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเผยภาพรูปปั้นช้าง พลายนิ่ง กำลังนอนล้มระเนระนาด ตะแคงเสียหลัก โดยไม่มีวี่แววจะต้อนรับนกท่องเที่ยวไหว ซึ่งการควานหาตัวผู้กระทำผิดก็ไม่ต้องไปหาที่อื่นไกล เนื่องจากทางเพจได้ให้ข้อมูลไว้ว่า
” #โดนอีกเเล้ว ไม่รู้เเค้นอะไรนักหนา รูปปั้นช้างเขาใหญ่ (พลายนิ่ง) สัญลักษณ์ประจำจุดบริการนักท่องเที่ยวอุทยานเขาใหญ่ ที่เมื่อปีที่เเล้วก็โดนฟัดล้มไปครั้งนึงเเล้ว เเต่ช้างป่าตัวจริง (พลายเดี่ยวหลับ) สงสัยยังไม่หายเเค้น กลับมาฟัดล้มไปอีกรอบเเล้ววันนี้ (5 ก.ค.65) ”
ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากก็อดที่จะอมยิ้มในความเสียหายนี้ไม่ได้ โดยมีการเข้ามาคอมเมนต์คาดเดาถึงปมบาดหมางครั้งนี้กันจ้าละหวั่น อาทิ หมั่นไส้..ชวนคุยไม่คุย , ให้รู้นะ แถวนี้ใครคุม , สงสัยมานานละยืนเงียบอยู่ที่เดิมผ่านมาเจอะทุกครั้งทนไม่ไหวจริงจัดเลยสบายใจ , หล่อเกินหน้าเกินตา ก็งัดให้ล้มเลย โดยนอกจากการสันนิษฐานถึงปมฝังใจไปต่าง ๆ นา ๆ แล้ว ความเห็นชาวเน็ตท่านหนึ่งยังมองกาลไกลถึงขั้นแนะนำให้ ทำใหม่เป็นแบบช้างนอน รอไปเลย ไม่เช่นนั้นรอบ 3 4 5 มาแน่ ๆ
ตารางฉายหนังกลางแปลงกทม โปรแกรมฉายหนังกรุงเทพกลางแปลง หนัง 25 เรื่อง 10 สถานที่ เช็กตารางให้พร้อมก่อนเดินทาง วันแรก 7 ก.ค.นี้ ประเดิมด้วย 2499 อันธพาลครองเมือง
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเทศกาล “กรุงเทพฯ กลางแปลง” การจัดฉายหนังกลางแปลงกระจายไปหลายพื้นที่รอบเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ ล่าสุด วันนี้ (5 ก.ค.65) เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ได้มีการออกมาโพสต์อัปเดตโปรแกรมฉายหนังที่จะเริ่มดีเดย์วันแรก 7 ก.ค.นี้ ให้ผู้คนที่สนใจได้เตรียมความพร้อมก่อนไปสัมผัสบรรยากศแห่งโลกภาพยนตร์โดยมีเมืองหลวงของประเทศเป็นพื้นหลังถ่ายทอดเรื่องราว
มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายนึง ได้โพสต์ภาพ และข้อความลงในกลุ่ม เบเกอรรี่พอเพียง โดยระบุว่า ได้โดนลูกค้าติอย่างครั้ง ทำขนมไม่สวย แต่ที่จริงแล้วตยเป็นคนพิการ มีแค่ 4 นิ้ว ไม่มีนิ้วโป้ง ทำให้เวลาปั้นขนมได้รูปทรงไม่สวยมากนัก โดยมีข้อความว่า “เราพิการ เวลาบีบขนม ปัญหาคือบีบไม่สวย จะโดนลูกค้าติตรงขนมไม่ค่อยสวย แต่รสชาติอร่อย บางทีเราก็ท้อเหมือนกัน การทำขนม อย่างแรกคือ หน้าตา รูปทรง สวยงามดึงดูด แต่เราจะไม่ท้อค่ะ เราจะสู้ต่อไปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ #ขนมอาลัวหวานน้อย #หน้าตาไม่ค่อยสวย แต่อร่อยนะคะ”
กองสลาก ประกาศห้ามการ ขายต่อสิทธิสลากดิจิทัล หรือขายสลาก 80 เกินราคา
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศเตือนมิให้มีการดำเนินการ ขายต่อสิทธิสลากดิจิทัล หรือขายสลาก 80 เกินราคา โดยสามารถถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ขายต่อสิทธิสลากดิจิทัล – (5 ก.ค. 2565) พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการนำสลากดิจิทัล มาจำหน่ายต่อเกินราคาบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะซื้อสิทธิสลากดิจิทัลจากผู้อื่น ให้เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการซื้อต่ออย่างเด็ดขาด
เพราะในระบบการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง จะบันทึกชื่อผู้ซื้อไว้อย่างชัดเจน และให้สิทธิการเป็นกรรมสิทธิของผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของบัญชีแอปเป๋าตังเท่านั้น ดังนั้นเมื่อถูกรางวัล เงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนสิทธิเปลี่ยนมือการขึ้นรางวัลไปให้บุคคลอื่นได้ หรือกรณีหากจะมารับสลากฯ ที่สำนักงานฯ ก็จะต้องใช้ชื่อผู้ซื้อยืนยันตัวตนในการมารับสลากฯ
ดังนั้น ถ้าใครหลงเชื่อ ซื้อสลากดิจิทัลที่มีการนำมาประกาศขายต่อ หากถูกรางวัลอาจเกิดปัญหาตามได้ ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงานสลากฯ ได้มีประกาศชัดเจน และออกมาแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลโดยตรงผ่านแอพเป๋าตังเท่านั้น ซึ่งระบบมีความปลอดภัย และสามารถขึ้นเงินรางวัลได้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันสำนักงานสลากฯ ขอแจ้งเตือนผู้ที่ซื้อสลากดิจิทัล และนำไปขายสิทธิต่อให้ผู้อื่นในราคาเกินกว่าใบละ 80 บาท จะมีโอกาสถูกดำเนินคดีฐานขายสลากฯ เกินราคา ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ว่าสลากฯใบนั้นใครเป็นผู้ซื้อและเป็นเจ้าของ โดยหากมีการนำไปขายต่อ หรือขายเกินราคา ก็จะดำเนินการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเปรียบเทียบปรับต่อไป
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง